วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2558

ลิขิตเทวะ ตอนที่ 7





การกระทำทุกอย่าง ล้วนเป็นสิ่งที่ชะตากรรมกำหนดมา 
แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เลิศเลอ แต่มันก็สอนให้เรารู้จักคำว่า อดทน


เมืองกาญจน์นคร 
ทารกที่นางกาฬเทวีทิ้งไว้ในเรือนขณะที่นางหลบหนีทหาร
เกิดร้องไห้โวยวายขึ้นมาเสียงดัง 
หญิงหม้ายที่ได้ยินเสียงก็โผล่มาดู 
ได้เห็นเป็นทารกน้อยๆ น่ารักจิ้มลิ้ม 
นางจึงนำทารกนั้น มาเลี้ยงไว้เอง และตั้งชื่อว่า ศรา 

ทางด้าน สุวรรณราช ได้อุ้มนิลกาญจน์ 
ก็ต้องตกใจเมื่อ นิลกาญจน์ทารกน้อยนั้นกายเปลี่ยนเป็นสีดำ 
ด้วยความที่เป็นกษัตริย์ชื่นชอบในความงาม 
ไฉนเลยที่สีดำจะเป็นความงาม 
จึงได้มอบทารกน้อยนี้เป็นรางวัลให้แก่แม่ทัพทหาร 
และสั่งให้แม่ทัพออกตามหาวุธากาญจน์อีกด้วย 
แม่ทัพจึงรายงานว่า นางกาฬเทวีอาจจะฆ่าทารกนั้นก่อนก็ได้ 
เพราะตอนที่จับนางก็เห็นเพียงนิลกาญจน์เท่านั้น 
สุวรรณราชก็เศร้าโศกร้องไห้ 

พอนางกนกมาศตื่นขึ้นมาเห็นเพียง ทิวากาญจน์ ก็ปลื้มปีติ 
แต่หารู้ไม่ว่า ตนได้กำเนิดโอรสสามองค์ 
เพราะสุวรรณราชให้เก็บทุกอย่างเป็นความลับ 
กนกมาศจึงเลี้ยงดูทิวากาญจน์เป็นอย่างดี 

หญิงหม้ายเอง นางมีฐานะยากจน ก็เลี้ยงศราตามมีตามเกิด 
แต่นางก็ไม่ให้ ศรา อดอยากเหมือนเช่นนาง 
เพราะนางคิดว่า เด็กน้อยคนนี้คงเป็นสิ่งที่สวรรค์ประทานมาให้ตน 

ในจวนของแม่ทัพ 
แม่ทัพก็นำตัวเด็กมาและเปลี่ยนชื่อเป็น นรกาฬ 
ศรีภรรยาของแม่ทัพก็เป็นคนด้อยการศึกษา 
จึงปฎิบัติตามคำสั่งของสามีทุกอย่าง 
ความโง่ของเมียแม่ทัพก็ตกไปยังนรกาฬ เหมือนเช่นความดุดันของแม่ทัพเอง 
แม่ทัพจึงเลี้ยงดูเด็กคนนี้ด้วยความโหดร้าย 
และเพื่อกุมอำนาจเมืองนี้จึงคิดจะใช้ นรกาฬ 
เป็นหุ่นเชิดรอวันได้ครอบครองเมือง กาญจน์นคร 

และเมื่อ 16 ปีผ่านไป 
ทิวากาญจน์ขออนุญาตนางกนกมาศ
ออกไปเที่ยวนอกวังตามลำพัง นางก็อนุญาต 
เมื่อทิวากาญจน์ไปถึงย่านค้าขาย ก็ได้แต่มองพ่อค้าแม่ค้าขายของกัน 
จนกระทั่งถึงร้านขายเครื่องประดับ 
ทิวากาญจน์ได้เข้าไปในร้าน และเลือกซื้อสร้อยคู่มาชุดหนึ่ง 
จี้นั้นมีลักษณะเป็นวงกลมหยินหยาง 
และคิดว่าจะให้สร้อยนี้กับคนที่รู้ใจเขาเท่านั้น 
พอซื้อสร้อยเสร็จ ก็ควบม้าชมตลาดต่อไป 

นรกาฬ เด็กชายผู้มีความก้าวร้าวโดนแม่ทัพลงโทษ
ให้มาซื้อของแทนคนใช้ เพราะได้ทำร้ายคนใช้จนบาดเจ็บสาหัส 
ก็บังเอิญได้เจอกับ ทิวากาญจน์กลางตลาด 
เห็นทิวากาญจน์รูปร่างหน้าตางดงามดั่งเทพ ซึ่งแปลกกับตนที่ดำคล้ำขี้เหร่ 

จึงได้อาศัยพละกำลังของตัวเอง เข้าไปหาเรื่องทิวากาญจน์ 
ทั้งสองต่างก็มีกำลังพอห้ำหั่นกันได้ ไม่ยอมเสียท่าให้ฝ่ายตรงข้าม 
จนกระทั่ง ทิวากาญจน์ พลาดท่าล้มลงนอนกับพื้น
จึงโดน นรกาฬ กระทืบจนขาหัก และสลบแน่นิ่งไป 
แต่ก็ยังไม่สะใจแก่ นรกาฬ จึงหวังจะฆ่า ทิวากาญจน์เสีย 
แต่ มีชายหนุ่มคนหนึ่งเขวี้ยงท่อนไม้ขนาดใหญ่ใส่กบาลนรกาฬจนสลบไป 

ชายคนที่เขวี้ยงไม้ ก็คือ ศรา นั่นเอง 
ก็เข้ามาเอา ตัว ทิวากาญจน์ ออกไป
เพื่อรักษาที่กระท่อมของตน โดยมีหญิงหม้ายช่วยดูแล 
หญิงหม้ายเองก็รู้ว่า คนที่ศราพามาก็คือ ทิวากาญจน์ ลูกชายของ สุวรรณราช 
แต่ที่นางตกใจมากก็คือ ทั้งหน้าตารูปร่าง คล้ายกับ ศรามาก จนนางสลบไป

พอหญิงหม้ายฟื้นจึงเล่าเหตุมี่ทำให้นางสลบฟังว่า 
ศราและทิวากาญจน์คล้ายกันมาเหมือนเป็นฝาแฝด 
ศราเองก็ตกใจ อย่างคาดไม่ถึง 
แล้วทิวากาญจน์ก็ฟื้นขึ้นมา ก็ตกตะลึงในหน้าตารูปร่างของศราเช่นกัน 
จึงได้สนทนากันไปตามประสาชายหนุ่ม 

และแล้ว ทิวากาญจน์ก็ขอตัวกลับวัง 
แต่อาการขาหักยังเจ็บหนัก ยิ่งเคลื่อนไหว ก็ยิ่งเจ็บปวดมากกว่าเดิม 
จึงได้วานให้ ศราเปลี่ยนชุดกับตน และให้ศรา สลับตัวกับตน เข้าวังแทน 
ศราก็ตกใจ คิดไม่ถึงว่า ทิวากาญจน์จะพูดเช่นนี้ 
ศราก็พินิจดู เห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้สำรวจวัง 
ก็ตอบตกลง และเปลี่ยนตัวเข้าวังทันที 

หญิงหม้ายเองก็ ยอมรับในการตัดสินใจของ ศรา 
และดูแล ทิวากาญจน์ เหมือนเป็นลูกของตนเช่น ศรา 
พอ ทิวากาญจน์ อาการทุเลาแต่ยังไม่หายดี 
จึงตอบแทนบุญคุณหญิงหม้าย 
ด้วยการ รับใช้หญิงหม้ายเหมือนเช่น ศรา 

ศราเองพอได้เข้ามาในวัง ก็ตะลึงในความโอ่อ่าของวัง 
และยังทำตัวเก้ๆกังๆ เพราะไม่คุ้นเคยกับวังทอง 
ศราจึงพยายามปรับตัวเข้ากับคนในวัง และทำในสิ่งที่ ทิวากาญจน์เคยทำ 
ทั้งการเรียน การบริหารเมือง คุณธรรมต่างๆ 

กระทั่งเวลาผ่านไป 2 ปี 
สุวรรณราชและกนกมาศ คิดถึงเรื่องการแต่งงานของทิวากาญจน์ 
ศรา ซึ่งสลับตัวกับ ทิวากาญจน์ 
ไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงบอกสุวรรณราชไปว่า 
ขอคิดทบทวนดูก่อนสักหนึ่งเดือน 



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น