ลิขิตเทวะ ตอนที่ 23

สิ่งใดจะเท่าความศรัทธา ความเชื่อ
สิ่งนั้นแหละที่ทำให้เราชนะ

และแล้ววันที่ชาวเมืองกาญจน์นครควรที่จะต้องจดจำก็มาถึง

นรกาฬ ผู้นำทัพทหารหมื่นนาย

ก็เดินเรือมาถึงชายฝั่งเขตชายแดนของเมืองกาญจน์นคร

เหล่าทหารขนเสบียง ลำเลียงลงจากเรือ

แล้วตั้งฐานกำลังใหญ่ที่ชายฝั่งนั้น

นรกาฬ ส่งม้าเร็วนำสาส์นท้าศึกยึดเมือง

ไปถึงนายทวารเมืองกาญจน์นคร

และนำสาส์นนั้นไปทูลถึงสุวรรณราช

ทิวากาญจน์ อาสารับศึกแทนบิดาตนเอง

เพราะสุวรรณราช ก็ชรามากแล้ว

ทิวากาญจน์จึงตอบรับคำท้าของนรกาฬ

และนัดวันทำศึกในอีกสองวันข้างหน้า

ทิวากาญจน์ จึงไปปรึกษากับเพื่อนเพื่อจัดการศึก

เภตรา จันทรา และอีรอส ให้ใช้แผนตั้งรับศึก

เพื่อยึดเวลาทำศึกให้นาน ฝ่ายตรงข้ามจะได้หมดเสบียง

และจะล่าถอยกลับไปเอง เราก็ไม่เสียกำลังคนด้วย

แต่ศรา และฟ้าระดา อยากให้ใช้แผนรุก

รีบจบศึกเร็วๆ เสียกำลังดีกว่าใช้เวลาทำศึกนานเกินไป

เราก็จะหมดเสบียงเหมือนกันถ้าใช้เวลานาน

ตอนนี้ความคิดแยกออกเป็นสองข้าง

ทิวากาญจน์รับฟังความคิดของเพื่อนทุกคน

ทันใดนั้น

ทิวากาญจน์ก็คิดได้ว่าใช้ทั้งแผนรุกและแผนรับพร้อมกัน

เมื่อคิดตำราพิชัยสงครามฉบับทิวากาญจน์ได้

เพื่อนๆทั้งห้าอาสาช่วยทำศึกษา

เมื่อถึงวันกำหนดทำศึก

ทิวากาญจน์ได้เตรียมพลตั้งแต่หัวค่ำของเมื่อวาน

เพื่อลอบเข้ากองทัพหมื่นนาย

และตัดกำลังทหารอีกฝ่ายด้วยการวางยาในน้ำดื่ม

และเวลาอันเหมาะกับการประชันหน้าศึก

ต่างฝ่ายต่างเคลื่อนพลทหารมาจุดรบ

นรกาฬ ผู้นำทัพเมืองเอกนคร

ทิวากาญจน์ ผู้นำทัพเมืองกาญจน์นคร

ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างก็ตอบโต้

ถากถางกันด้วยวาจา

นรกาฬเป็นผู้พ่ายในการประชันฝีปาก

ความโกรธจึงทวีคูณขึ้นไป

นรกาฬจึงหันมาใช้กำลังหมายจะเอาชีวิตทิวากาญจน์ในทันที

นรกาฬออกคำสั่งให้ทหารของตนรุกทำศึกกับอีกฝ่าย

การปะทะกันของของสองฝ่ายนับเกือบสองหมื่นนาย

ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน

ทิวากาญจน์ก็รับมือกับนรกาฬ

เมื่อนรกาฬตนกำลังจะชนะ

จึงเร่งใช้พลังของตน

เพื่อสังหารทิวากาญจน์

ส่วนทิวากาญจน์เหงื่อตก

เพราะรับมือนรกาฬไม่ไหว

แต่ทิวากาญจน์ก็ยังฮึดสู้ต่อไป

ทำให้ขุมพลังปฐพีในตัวทิวากาญจน์เปิดออกมา

ทันใดก็มีลำแสงปะทุออกจากร่างของทิวากาญจน์

ลำแสงนั้นพุ่งออกรอบตัวทิวากาญจน์

ทำให้นรกาฬเหมือนโดนซัดกระเด็นไปไกลมาก

เมื่อลำแสงหายไป

ทิวากาญจน์สัมผัสได้ถึงพลังปฐพีอย่างแท้จริง

และยิ้มอย่างดีใจ

ส่วนนรกาฬที่โดนซัดออกมา

ก็โกรธทิวากาญจน์มากขึ้น

เมื่อรู้ว่าทิวากาญจน์มีพละกำลังที่จะสู้กับตนได้

นรกาฬจึงทุ่มกำลังสุดตัว

และความโกรธและความมุ่งมั่นของนรกาฬ

ทำให้ร่างของนรกาฬเริ่มเปลี่ยนแปลงสภาพ

กลายเป็นยักษ์ตัวสูงใหญ่ดำทะมึนอยู่ตรงหน้าทิวากาญจน์

ทิวากาญจน์ไม่ยอมแพ้

ซัดพลังไปยังพื้นดิน

ทันใด

พื้นดินตรงนั้นก็ยุบหายลงไปลึกกว่าเดิม

ยักษ์ดำพุ่งเข้ามาหาทิวาาญจน์

แต่ก็โดนซัดด้วยกองดินจากหลุมที่ยุบไปอีกครั้ง

กองดินที่มีพลังก็ก่อตัวเป็นยักษ์เช่นเดียวกับนรกาฬ

นรกาฬทึ่งกับภาพตรงหน้า

ก็ยังไม่ยอมแพ้

ครานี้ทั้งยักษ์ดำและยักษ์ดินใช้กำลังห้ำหั่นกัน

อย่างเอาเป็นเอาตาย

แผ่นดินตรงนั้นก็สะเทือนไปทั่ว

แต่แล้วเวลาที่เพื่อนของทิวากาญจน์รอคอยก็มาถึง

เมื่อยาที่ผสมกับน้ำที่ให้กองทัพอีกฝ่ายกินออกฤทธิ์
นรกาฬที่ดื่มน้ำนั้นด้วย 

ก็เจ็บปวดร่างกายคืนสู่ร่างเดิม

กองทัพทั้งหมดของนรกาฬโดนวางยา

เมื่อยาสลบนั้นออกฤทธิ์เต็มที่

ทำให้กองทัพของนรกาฬล้มลงระเนระนาดเกลื่อนสนามรบ

ทิวากาญจน์สั่งกำชับให้ทหารของตนรีบถอยออกมา

เสียงโห่ร้องดีใจของกำลังทหารดังสนั่น

ถึงคราที่ศราต้องจัดการ

ศราเรียกลมพายุมาหอบเอาทหารทั้งกองทัพ

ไปเกยไปที่ชายทะเลนอกเขตเมือง

ร่างเหล่าทหารของนรกาฬต่างเกลื่อนเต็มหาด

พร้อมกับอาการที่สลบไสล เหมือนกำลังนอนฝันหวาน

ทิวากาญจน์จัดงานเลี้ยงฉลองชัยของกองทัพให้กับทหาร

แต่ฟ้าระดาเตือนทิวากาญจน์ว่าอย่าเพลินมาก

ให้เตรียมรับมือกับนรกาฬอีกครั้ง

เพราะครานี้อาจจะไม่มีสาส์นมาแจ้ง

แต่จะมีกำลังมาเต็มโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว

ทำให้ทิวากาญจน์ฉุกคิดได้

คืนนั้นทั้งคืน

ทิวากาญจน์ก็วางแผนรับมือศึกครั้งต่อไป

อีกฟากของเมือง

ป่าที่โดนระเบิด

กลางหลุมระเบิดนั่น

อัคนีฟื้นจากการบาดเจ็บ

และความเจ็บปวดร่างกายก็หายไปด้วย

อัคนีสูญเสียการควบคุมพลัง

เพราะแรงระเบิดของดารา

ทำให้พลังจากลูกปัดอัคคี

แล่นอยู่ทั่วร่างของอัคนี

ร่างทั้งร่างของอัคนีกำลังถูไฟลุกท่วม

แต่อัคนีไม่สะทกสะท้านใดๆกับไฟนั่นเลย

แต่กลับทำให้อัคนีมีพลังอีกแบบที่ไม่คิดว่าจะได้มา

อัคนีก็เดินท่องป่าไปเรื่อยๆ

และทดสอบพลังของตนไปตลอดทาง

ถัดมาในเช้าอีกวัน

กองทัพทหารของนรกาฬค่อยๆฟื้นตัวทีละคน

ต่างพบว่าตัวเองมานอนอยู่ริมหาด

เมื่อนรกาฬพบว่าตัวเองพ่ายศึกครั้งนี้ก็อับอายทหาร

แต่ก็ทำสีหน้าเฉยๆ

เพราะกล้วว่าทหารจะไม่สู้ร่วมกับตน

นรกาฬจึงตั้งค่ายที่บริเวณนั้น

เพื่อเตรียมกองกำลังให้พร้อมกว่าเดิม

แต่มีคนไฟลุกเดินโฉ่งฉ่างเข้ามาหานรกาฬ

เพราะเขารู้ดีว่าถ้าเขาอยากครอบครองโลกเขาต้องอยู่ฝ่ายไหน

นรกาฬใจไม่สู้ดีนักเมื่อต้องร่วมมือกับอัคนี

แต่ก็พยายามฝืนใจตัวเอง

เพราะเห็นแก่ชัยชนะมากกว่า

นางปีศาจดาราที่เฝ้าสังเกตการกระทำของอัคนี

และอัคนีก็ไม่รู้ว่ามีคนคอยสอดส่องตัวเองอยู่

เช่นเดียวกับอีรอสร่างที่ล่องหน

ก็มาสอดส่องกองทัพของนรกาฬ

และกลับไปเล่าเรื่องราวให้เพื่อนๆของตนฟัง

วิญญาณหญิงหม้ายที่ติดตามศราเข้ามาในวัง

อาศัยในร่างของนางวังคนหนึ่ง

เพื่อหาทางติดต่อกับศรา

ศราเองก็วางแผนรบอยู่กับ ทิวากาญจน์

เภตราและจันทรา ก็ออกมาเดินเที่ยวรอบเมือง

ส่วนฟ้าระดาก็ออกตามรอยเสียงระเบิดถี่ๆเมื่อคืน

จนพบหลุมระเบิดขนาดใหญ่ที่อยู่อีกฟากของเมือง