การแปรสภาพนิ้วมือของเด็กชายฟง เว่ย ชาง
เหตุการณ์ดังกล่าวพบครั้งแรกที่ซีครอชเซนเทอร์ปาร์ก
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2050 เวลา 10.35 น.
จากการสืบค้นข้อมูลของนายเธโอ เทอร์มิล ผู้สืบข่าว
ได้สอบถามและค้นคว้าได้ข้อมูลมาจากสถานที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวได้ข้อสรุปว่า
เมื่อมีหนึ่งครอบครัวมาพักผ่อนวันหยุดที่ซีครอชเซนเทอร์ปาร์ก
ขณะที่เด็กชายวัยสามขวบกำลังเดินเล่นใกล้พ่อแม่
เด็กชายนั้นเกิดอาการหมดสติ
พ่อแม่ที่เฝ้ามองดูรีบวิ่งมาประคอง
และเด็กชายก็ฟื้นกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
แต่มีสิ่งหนึ่งที่แปลกไปคือ
นิ้วมือของเด็กแปรสภาพให้นิ้วติดกัน
สร้างความตกใจและประหลาดใจให้พ่อกับแม่อย่างมาก
หลังจากเกิดเหตุการณ์กับเด็กได้ไม่นาน
พลเมืองซีครอชเริ่มจะกังวลว่า
อาจจะเป็นเพราะผลข้างเคียงของโรงงานระเบิดในครั้งก่อน
ทำให้พลเมืองต่างวิตกกังวลกับเหตุการณ์
ด้านนายวิลเลี่ยม เพทิกกัน ผู้ว่าการรัฐซีครอช
ออกมาเตือนพลเมืองไม่ให้แตกตื่นกับเหตุการณ์
และประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงาน RNAO
เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้พลเมืองคลายความตึงเครียด
นายเธโอ เทอร์มิลยังคงติดตามข่าวอย่างเป็นระยะ
จากโรงพยาบาลซีครอช ซึ่งแน่นไปด้วยนักข่าว
จนกระทั่งนายเหยา เว่ย ชาง ผู้เป็นพ่อของเด็ก
ได้ออกมาพบสื่อมวลชนและให้สัมภาษณ์ว่า
"อย่างไร เขาก็เป็นลูกชายผม ผมจะดูแลเขาเอง"
เจ้าหน้าที่ RNAO เดินทางมารับตัวเด็กชายฟง
เพื่อทำการตรวจสอบหาสารเคมีอันตราย
แต่นายเหยา เว่ย ชาง พาภรรยาและลูกชาย
หลบหนีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่
ทำให้ทางการรัฐซีครอชเริ่มวิตกกังวลกับปัญหานี้มาก
พลเมืองซีครอชที่รู้ข่าวเด็กหายตัวจากการตรวจสอบ
ทำให้พลเมืองซีครอชเริ่มเคลื่อนไหวต่อต้านและประท้วง
ให้ทางการรัฐรีบเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด
ทำให้นายวิลเลี่ยม เพทิกกันออกหมายจับครอบครัวชาง
และจะมอบรางวัลให้ผู้ที่จับครอบครัวชางได้
จากการใช้โปรแกรมพิสูจน์ใบหน้าของกรมคดีพิเศษ
ก็ยังไม่พบร่องรอยของครอบครัวชางเลย
เหตุการณ์ของเด็กชายฟง เว่ย ชาง เป็นเหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้น
และมีเหตุการณ์ต่างๆตามมาอีกหลายเคส
ส่วนอวัยวะของเหยื่อสารกัมมันตรังสีที่ถูกแช่เย็นไว้
จากการเก็บหลักฐานและตรวจสอบของหน่วย RNAO
พบว่ามีสารกัมมันตรังสีในร่างกายของเหยื่อจริง
และเป็นสารกัมมันตรังสีที่อันตรายมาก
จะไม่ส่งผลกระทบในทันที ต้องรอโอกาสของสารเคมีตัวนี้
ผลการตรวจสอบเนื้อเยื่อของเหยื่อที่เสียชีวิต
จากการตรวจสอบยืนยันทางวิทยาศาสตร์
สารกัมมันตรังสีนี้สามารถทำลายหรือสร้างร่างกายได้
ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายนั้นเข้ากับสารเคมีตัวนี้หรือไม่
ถ้าหากสารเคมีตัวนี้ไม่สามารถเข้ากับร่างกายของคนไหน
ก็จะทำให้ร่างกายแปรสภาพต่างไปจากเดิม
แต่ถ้าหากสภาพร่างกายของคนไหนที่มีเคมีตรงกันกับสารนั้น
ก็จะเป็นการเพิ่มสมรรถภาพหลายด้านของคนๆนั้น
พลเมืองซีครอช ต่างก็เผชิญกับคราวเคราะห์หนัก
บางคนก็ต้องสูญเสียคนในครอบครัวไป
บ้างก็พิการ บ้างก็สติเลอะเลือน
แต่มีคนบางกลุ่มที่มีเคมีตรงกันกับสารกัมมันตรังสีตัวนั้น
ก็ออกเที่ยวระรานพลเมืองซีครอชทั่วเมือง
ทำให้เมืองซีครอสกลับมาเป็นเมืองวุ่นวายอีกครั้งหนึ่ง
ทางด้านนักวิทยาศาสตร์แลป
ต่างก็พยายามค้นหาแหล่งที่มาของสารกัมมันตรังสีตัวนี้
ก็ยังไม่สามารถสืบค้นได้ว่าสารกัมมันตรังสีตัวนี้สกัดมาจากไหน
เนื่องจากเป็นสารกัมมันตรังสีที่ยังไม่เคยเจอบนโลกเลย
และสารกัมมันตรังสีตัวนี้ยังคงเป็นสิ่งลึกลับต่อไป
นายอเล็กซานเดอร์ อาเมร่อน ผู้เขียนข่าว
นายเธโอ เทอร์มิล ผู้สืบข่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น