วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

ลิขิตเทวะ ตอนที่ 6






การกำหนดชะตากรรมนั้นเป็นเรื่องของฟ้าลิขิต
มันขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะใช้ชะตาชีวิตทางมืด หรือทางสว่าง
แม้แต่เทพที่จุติมาก็ไม่อาจจะฝืนชะตากรรมได้
ทำได้เพียง เดินต่อไปข้างหน้า ให้ดีที่สุด

กระโจมกลางป่าบนภูเขาสูง 
เด็กสาว จันทรา ได้ลืมตามาดูโลกเป็นครั้งแรก
นางรัตติกาลได้ให้กำเนิดธิดากับ หัวหน้ากองโจร
สร้างความปีติยินดีให้กับหัวหน้ากองโจรอย่างมาก
หัวหน้ากองโจร ได้ฉลองการมาเกิดของ เด็กหญิง จันทรา

แต่พลันก็มีข่าวด่วนจากอีกาดำ 
ว่ามีขบวนคาราวานสัญจรผ่านเทือกเขาแถวนี้
และมีรายงานว่าขบวนนี้มีทรัพย์สินมากมาย
หัวหน้ากองโจร จึงออกโรงเอง เพราะเป็นลาภก้อนโต
จึงได้แบ่งกำลังกองโจรออกเป็นสองกอง
กองแรกไปกับหัวหน้ากองโจร
กองที่สอง อยู่เฝ้าค่ายเผื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้นจะได้ป้องกันได้ทันท่วงที

อินทรีย์ ผู้ปลอมตัวแฝงในกองโจรมานาน ไม่สามารถติดต่อกับนางรัตติกาลได้
ตั้งแต่ตอนที่นางเริ่มตั้งท้อง หัวหน้ากองโจรก็มิได้อยู่ห่างจากนาง
พอสบโอกาส อินทรีย์จึงได้โอกาส ลอบเข้าหานางรัตติกาลอีกครั้ง
และได้ใช้กำลังปลุกปล้ำนาง 
ขณะที่นางกำลังกล่อม จันทรา ให้นอนหลับอย่างสบาย
นางรัตติกาลกลัวว่า จันทราจะตื่นขึ้นมา
จึงได้กระซิบ อินทรีย์ว่า อย่าส่งเสียงดัง 
ถ้าจะทำอะไรกับนางขอให้ทำเบาๆ
อินทรีย์จึงได้บรรเลงเพลงรักกับนางรัตติกาล
อย่างมีความสุขในกระโจมกลางค่ายกองโจร

ด้านหัวหน้ากองโจร ได้ดักปล้นเอาทรัพย์สินจากคาราวานได้มากมาย
และได้สังหารผู้ชายทั้งหมด ไล่ต้อนหญิงสาวกลับค่าย
แต่พวกนางขัดขืนไม่ยอมทำตาม
สายตาของหัวหน้ากองโจรเหลือบไปเห็นเด็กทารกหน้าตาน่ารัก 
จากหญิงหนึ่งคนในคาราวานจึงไปอุ้มเอามาหน้าด้านๆ
แม่เด็กอ้อนวอนขอเด็กคืน หัวหน้ากองโจรจึงใช้ดาบจ้วงเข้าที่ท้อง 
จนนางสิ้นใจ

หัวหน้ากองโจรจึงได้ออกคำสั่ง
ให้เหล่าผู้หญิงทั้งหมดเป็นของกองโจร 
ใหัจัดการกันเอง ห้ามให้มีชีวิตรอดเด็ดขาด
พอสั่งการเบ็ดเสร็จ ก็ควบม้ากลับค่ายทันที
ฝ่ายกองโจรทั้งหลาย ก็สมเป็นชายชาตรีที่เขากล่าวกัน
ใช้กำลังบังคับข่มขืนหญิงเหล่านั้น 
ฝ่ายหญิงก็มิอาจจะขัดพละกำลังชายได้ จึงได้แต่ปัดป้อง
พอเสร็จกิจของกองโจร จึงได้สังหารหญิงทั้งหมด และถูกโยนลงเหวลึกบนเขานั้น

หัวหน้ากองโจรได้กลับมาถึงค่าย 
ก็ตรงมายังกระโจมของนางรัตติกาล
เพื่ออวดในสิ่งที่ตนได้มาแก่นาง
แต่ ภาพที่หัวหน้ากองโจรเห็นคือ 
หญิงชายชู้กำลังเสพสุขกันอย่างรื่นรมย์
หัวหน้ากองโจร จึงเรียกลูกน้องโจรมาจับ 
หญิงชายชู้ ไปขังคุกต้นไม้ ทั้งที่เปลือยร่างกาย
อินทรีย์ กับ รัตติกาล ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก
ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมของตน

หัวหน้ากองโจรได้เข้าไปอุ้มเอาจันทราออกมาจากเปล
และเอาทารกทั้งสองไปหน้าค่าย หวังว่าจะสังหาร
แต่ความคิดนั้นได้หยุดไป 
เมื่อจู่ๆภาพของรัตติกาลขณะที่กำลังบำเรอตนอยู่ในห้วงความคิดขณะนั้น
จึงได้ยับยั้งการสังหารสองทารกน้อย
และสั่งให้ลูกน้องโจรนำตัว หญิงโฉดชายชู้มายังลานเพลิงเพื่อตัดคอ และสุมไฟ
เพื่อลบล้างเกียรติที่ถูกชู้รักคู่นี้ทำลายลงไป

ด้วยความคิดอันแยบคายของ อินทรีย์
จึงได้ขอสิ่งหนึ่งก่อนจะโดนตัดหัว 
โดยหัวหน้ากองโจรต้องรับปากว่าจะให้ได้
หัวหน้ากองโจรรับปาก อินทรีย์จึงเอ่ยขอท้า
ให้หัวหน้ากองโจรสู้กับตนเดิมพันด้วยทุกสิ่งในของสองฝ่าย
หัวหน้ากองโจรรับปากไปแล้วไม่อาจจะคืนคำได้ จึงตกลงรับคำท้า

กลางลานเพลิง อินทรีย์ กับ หัวหน้ากองโจร ได้ปะทะกำลังห้ำหั่นกัน
กระทั่ง อินทรีย์พลาดท่า ให้ หัวหน้ากองโจรได้โอกาสสวนดาบเข้าหาอินทรีย์
แต่ก็พลาดเพราะหัวหน้ากองโจรนั้น 
สะดุดก้อนหินล้ม 
ดาบของอินทรีย์จึงสวนคืนทะลุอกซ้าย
 และหัวหน้ากองโจรก็ได้สิ้นใจไป
จึงเป็นฝ่ายของอินทรีย์ที่ชนะ และได้คุมอำนาจกองโจรแทน 
จึงเปลี่ยนจากกองโจรเป็นกองทัพ

นางรัตติกาลก็ได้กลับมาเป็นเมียของอินทรีย์ตามคำขอของอินทรีย์
ส่วนเด็กทารกที่ อดีตหัวหน้ากองโจรได้ตัวมา 
ได้ให้ชื่อว่า ดารา และให้เป็นเพื่อนเล่นกับ จันทรา
หลังจากนั้น อินทรีย์ก็ได้ครองความสุขในอำนาจที่ยึดมาได้
อย่างมีความสุขกับรัตติกาลและเด็กน้อยทั้งสอง


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น