ทิวากาญจน์กลับเมือง
ผู้เป็นพ่อ เป็นแม่ ปลื้มใจมากที่ลูกชายกลับเมือง
ทิวากาญจน์เห็นบ้านหลังหนึ่งแปลกๆ
ทีคาถาอาคมกำกับรอบทิศ
สุวรรณราช บอกไปว่ามีตัวประหลาดเข้ามาในเมืองจึงต้องขังไว้
ทิวากาญจน์ แอบยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
ปีศาจดารา หน้าตาสดสวย แต่กายเป็นปีศาจร้าย
อยู่ในบ้านลงอาคม กระวนกระวาย
หาทางออกจากบ้านหลังที่จองจำตน
กลางวัน ดาราจะกลายเป็น คน
ส่วนกลางคืน ดาราจะคืนร่างปีศาจ
นางปีศาจได้แต่หลอกล่อคนที่เดินผ่านไปมา
เพื่อหวังเลือดและเนื้อ
แต่กลับไม่มีใครหลงกลนางปีศาจ
ทิวากาญจน์ตัวปลอม
จึงใช้โอกาสในการปลอมตัวครั้งนี้
เข้าช่วยเหลือดารา
ทิวากาญจน์หาเหยื่อ
เพื่อเป็นตัวทดลองช่วยดารา
ตัวทดลองทุกๆรายเมื่อจะแกะป้ายอาคมออก
กลับโดนมนต์ของป้ายนั้นเสียเอง
จนตัวทดลองทุกๆรายต้องกลายเป็นอาหารของนางปีศาจดารา
ทิวากาญจน์ ก็ยังเสาะแสวงหาทุกวิธี
จึงนึกคิดได้ว่า ต้องไปหาหมอผีคนที่ทำพิธีนี้
เมื่อคิดได้ก็หายตัวไป ปรากฏตัวขึ้นที่บ้านหมอผีคนนั้น
แต่สิ่งที่เห็นคือ
บ้านร้างทั้งหลัง ไม่มีคนอยู่เลย
ทิวากาญจน์เห็นมีแต่ซากกระดูก สามกอง
ทิวากาญจน์ยืนมองอยู่นาน ก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้
เพราะสุวรรณราชสั่งทำลายหลักฐานในการทำพิธีครั้งนี้
หมอผีและลูกเมีย
จึงต้องสังเวยชีวิตให้กับการกระทำเลวของคนสองหน้า
ทิวากาญจน์ตัวปลอมก็ยังคงหาหลักฐานในบ้านหลังนั้นต่อไป
จนกระทั่งเจอหีบเหล็กใบใหญ่หนึ่งใบใต้เตียงนอน
ทิวากาญจน์ จึงใช้คาถาสะเดาะกุญแจไขหีบนั้น
เมื่อเปิดหีบขึ้น มีควันดำพวยพุ่งออกมาจากหีบ
เมื่อทิวากาญจน์ มองดูก้นหีบเจอเพียง
หนังสือหนึ่งเล่ม สภาพไม่ต่างกับของเก่าๆ
ทิวากาญจน์กำลังจะหยิบหนังสือเล่มที่ว่า
แต่กลับโดนกลุ่มควันดำขัดขวาง
ควันดำๆนั่นรวมตัวกัน
จนมีกายเหมือนมนุษย์ เป็นสาวสวย นาม อสรา
ทิวากาญจน์จึงถามนางต่างๆนานา
ถึงเหตุที่นางมาอยู่ในหีบ
อสราเล่าว่า
นางถูกขังอยู่ในหีบนี้นานห้าร้อยปี ชั่วอายุคนถึงห้าหกรุ่น
แต่เดิมอสราก็เป็นคนที่ไร้เดียงสา และอ่อนแอ
เพราะพ่อแม่ของอสราชอบกักนางไว้ในบ้าน
ไม่ให้ออกสู่สังคมนอกบ้าน
จนกระทั่งคืนวันหนึ่ง อสรา มีโอกาสได้ออกนอกบ้าน
อสราออกจากบ้านเดินท่องราตรีเพียงลำพัง
ในเวลานั้นพวกโจรกลัดมันกำลังหาเหยื่อสนองตัณหาของพวกตน
อสราที่อ่อนต่อโลก กลับเห็นกลุ่มโจรนั้นเป็นเพื่อน
อสราจึงเดินรี่เข้าหา
หัวหน้าโจรเห็นสาวสวยๆเดินเข้ามาจึงแสร้งทำเป็นคนปกติ
อสรา จึงเข้าไปทักทายตามประสาสาวแรกรุ่น
แต่หัวหน้าโจร กลับซัดหมัดเข้าที่ท้องของอสรา
อสรา จึงตกเป็นที่ระบายราคะของพวกโจรกลุ่มนั้น
อสรา ได้แต่ร้องไห้ และต่อว่ากลุ่มโจรนั้น จนพวกโจรเดินหนีจากไป
อสราในสภาพที่ร่างกายมีอาภรณ์น้อยชิ้น
นางอสรานอนร้องไห้ไร้เรี่ยวแรง
แต่ หัวหน้าโจรกลับเดินย้อนกลับมาหาอสรา
และหยิบมีดสั้นที่เหน็บข้างเอว
แทงลงไปตรงหัวใจของอสรา
อสราไม่ได้กรีดร้องแม้แต่นิด
แต่ตาของอสราเบิกโพลง เกร็งทั้งร่างกาย
แล้วหัวหน้าโจรก็เดินจากไปไม่มีหันหลังกลับมา
วิญญาณของอสราหลุดออกจากกาย
อสราจึงต้องใช้ชีวิตในโลกวิญญาณ
เมื่ออสรา ได้พบกับ วิญญาณเถื่อน
ก็ทำให้อสราได้กลายเป็นวิญญาณเถื่อน
ไม่อยู่ในรายชื่อของยมทูต
อสราจึงเป็นอิสระจากทุกโลก
แล้วอสราเองก็ได้เรียนรู้อาคมมากมายจากโลกวิญญาณ
อสราคิดจะเข้าสู่ร่างเดิม
แต่ร่างไร้วิญญาณของอสรา
ถูกเผาเป็นฝุ่นไปแล้ว
อสรากลัดกลุ้ม ความชั่วเริ่มครอบงำ
ความแค้นต่างๆ เริ่มเข้ามาในห้วงคิดของอสราอีกครั้ง
นางจึงกลายเป็นปีศาจที่ดุร้าย
ฆ่าได้แม้กระทั่งพ่อแม่ของตน
อสราตามฆ่าหัวหน้าโจรและลูกน้องจนตายทั้งหมด
อสราฆ่าคนจนเป็นเรื่องปกติธรรมดา
การกระทำของนางเลวร้ายจนต้องมีหมอผีมาปราบ
และหมอผีก็กำราบนางปีศาจอสราได้สำเร็จ
อสราจึงคิดพยาบาทกับหมอผีทุกคนๆนับแต่วันนั้น
ทิวากาญจน์ได้ถามถึงเรื่องหนังสือในหีบ
อสราบอกไปว่า
มันเป็นหนังสือมนต์ดำเล่มแรกที่หายไปนาน
ใครได้ครอบครองจะยิ่งใหญ่เหนือทั้งสามโลก
อัคนีในคราบทิวากาญจน์รู้สึกพอใจกับหนังสือนี้
แต่อสราบอกว่า หากคิดจะครอบครอง
ต้องยอมรับการสูญเสียในวันข้างหน้า
ทิวากาญจน์ตอบตกลง
ความชั่วร้ายในตัวของอสราจึงถูกหนังสือดูดกลับคืน
อสราจึงเป็นสาวน้อยไร้เดียงสาเหมือนเดิม
ทิวากาญจน์ได้ครอบครองหนังสือ
และมนต์ดำทั้งหลายในหนังสือก็ถ่ายเทมายังทิวากาญจน์
จนอัคนีไม่สามารถควบคุมจิตได้จนต้องคืนร่างอัคนีเหมือนเดิม
และไม่สามารถแปลงกายได้อีกตลอดไป
ด้วยอสรากลายเป็นแค่สาวธรรมดา
อัคนีคิดที่จะตอบแทนอสราด้วยการเป็นสามีเลี้ยงดูนาง
อัคนีจึงอยู่กินกับอสรานอกเมืองกนกนครที่ชายป่าหลังเมือง
เช้าวันหนึ่งในตำหนักหลวง
สุวรรณราชเห็นว่าทิวากาญจน์หายตัวไป
จึงคิดได้ว่า ทิวากาญจน์คงเป็นอาหารของปีศาจดาราไปแล้ว
ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ สุวรรณราชจึงได้เดินไปยังบ้านอาคม
จุดไฟเผาบ้านหลังนั้นทันที
แต่ไฟนั้นกลับโดนป้ายอาคมก่อน
ป้ายอาคมจึงไหม้ไปในทันที ปีศาจจึงหลุดออกมาได้
ดาราในร่างคนปกติก็รีบหนีออกจากบ้านหลังนั้น
วิ่งตรงไปยังที่ซ่อนลูกปัด อัคคี และลูกปัดเร้นลับ
ดาราหยิบถุงลูกปัดออกมาแล้วก็หลบหนีออกด้านหลังเมืองในทันที
เวลาผ่านไปชั่วยามเดียว
สุวรรณราชก็คืนสติ
งงงวยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
และสงสัยว่าบ้านอาคมถูกเผาได้อย่างไร
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น