วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

ลิขิตเทวะ ตอนที่ 11




สิ่งใดที่ยังไม่เกิด หากมันจะเกิดก็ต้องเกิด
และเตรียมรับสถานการณ์ที่จะเกิด เพราะเราไม่สามารถชะลอ หรือหยุดมันได้


หลังจากที่ ทิวากาญจน์ และศรา หนีออกจากเมือง กาญจน์นคร
เมื่อเข้ามาพักที่เมือง ปัญจัศจรรย์นคร 
อย่างไม่มีกำหนดออกจากเมือง
ได้พบความมหัศจรรย์ของธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ
แต่ยังไม่ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์อันสุดท้าย คือ สิ่งเร้นลับ

เมื่อถึงวันเฉลิมฉลอง 
วันครบรอบก่อตั้งเมือง ปัญจัศจรรย์นานนับพันปี
เมืองนี้ไม่มีกษัตริย์คอยปกครอง 
ชาวเมืองต่างก็อยู่อย่างสงบ ไม่เบียดเบียนกัน
มีเพียงหัวหน้าเขตทั้ง 5 ของเมือง 
ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษา สิ่งวิเศษ ที่เป็นของประจำเมือง
หัวหน้าเขตดิน ดูแล ลูกปัดปฐพี
หัวหน้าเขตน้ำ ดูแล ลูกปัดสมุทร
หัวหน้าเขตลม ดูแล ลูกปัดมารุต
หัวหน้าเขตไฟ ดูแล ลูกปัดเตโช
หัวหน้าเขตลับ ดูแล ลูกปัดเร้นลับ
หัวหน้าทั้ง 5 เขต ต้องนำลูกปัดทั้ง 5 
มารวมกันกลางเมือง เพื่อบูชาอมรเทวะที่สร้างเมืองขึ้น

ทิวากาญจน์ และ ศรา 
จึงได้โอกาสนี้ ชมของวิเศษทั้งห้าชิ้น
เมื่อทั้งสองหนุ่มเข้ามาในงาน 
ต่างก็ตะลึงกับความแปรปรวนทั้ง 4 ธาตุ พร้อมๆกัน
เมื่อหัวหน้าเขตลับ เอาลูกปัดเร้นลับ 
ออกจากกล่องแก้ว ทุกสิ่งจึงกลับกลายเป็นปกติ

และจุดสนใจทั้งหมดก็มุ่งไปที่ลานพิธีบูชา
ลูกปัดทั้งห้าสี ถูกนำออกมาจากกล่องแก้ว 
ถูกจัดวางบนแท่นหินทั้งห้าทิศของเมือง
ก็เกิดลำแสงออกมาจากลูกปัด ทอดยาวไปบนฟ้า 
และเอนมารวมกันตรงกลางท้องฟ้าของเมือง
เกิดเป็นลำแสงสีขาวพุ่งลงมายังกระจก 
บนลานพิธีสะท้อนแสงสีขาวจ้าไปทั้งเมือง

เกิดมีหญิงสาว นอนสลบอยู่ บนแผ่นกระจกใบใหญ่กลางลาน
นางค่อยๆ ฟื้นคืนสติ แล้วตกตะลึงกับบรรยากาศรอบตัว
ผู้คนในเมือง ต่างก็หวั่นว่า นางเป็นตัวอะไร 
แต่งตัวแปลกๆ วาจาเพี้ยนๆ ไม่เหมือนคนในเมืองเหมือนพวกคน

นางตกใจ จึงวิ่งออกไปจากลานนั้น 
มุ่งตรงไปยังทิศใต้ของเมือง
ทิวากาญจน์ และ ศรา จึงวิ่งตามนางไป
จึงพบว่า นางกำลังเศร้า นางกำลังร้องไห้ จึงเข้าไปคุยกับนาง
ศราจึงถามนางว่า มาจากไหน 
นางก็บอกว่านางมาจากโลกที่มีแสงสี กามารมณ์ทั้งหลาย
สองหนุ่มก็ยิ่งงงไปกันใหญ่ 
คุยไปๆมา จึงรู้ว่านาง ไม่ใช่คนของโลกนี้
นางเป็นคนของโลกอีกมิติหนึ่ง
ทั้งศรา และ ทิวากาญจน์ จึงแนะนำตัวกับนาง 
และนางก็บอกว่านางชื่อ ฟ้าระดา

ฟ้าระดา เกิดอ่อนเพลีย 
ทิวากาจน์ และ ศราจึงพานางไปพัก
เช้าวันต่อมา
ฟ้าระดารู้สึกว่าตน 
มีอาการเจ็บดวงตาแปลกๆ จึงเรียกทั้งสองหนุ่มมาดู
ศรา และทิวากาญจน์ 
ก็ไม่รู้อาการ จึงไปเรียกหมอเมืองมาดู
หมอเมืองก็ไม่รู้โรคของนาง
เพราะตาของนางข้างซ้ายเป็นสีแดง และข้างขวาเป็นสีฟ้า
เมือหมอเมืองให้ยาระงับอาการปวดกับฟ้าระดา
ฟ้าระดาจึงกลับเป็นปกติ

ฟ้าระดา ไม่มีบ้าน 
ไม่มีญาติบนโลกนี้
นางจึงขออาศัยอยู่กับ 
ทิวากาญจน์ และ ทิวา ชั่วคราว
ฟ้าระดาพยายามหาทางกลับบ้านเท่าไหร่นางก็หาไม่เจอ
ทิวาจึงออกความเห็นว่า นางมาอย่างไรก็ต้องไปอย่างนั้น
ทั้งสามคน ก็เริ่มปฏิบัติการ
การชิงลูกปัดทั้งหน้าจากหัวหน้าเขตทั้ง 5 คน

ภารกิจนี้ยากนัก
ผู้บุกรุกเขตดินย่อมต้องเจอ แผ่นดินไหว เขาวงกต 
แต่ทั้งสามก็หาทางออกจนพบ และนำลูกปัดปฐพีออกมาได้

ทั้งสามคนเดินทางมาถึงเขตลม ก็ต้องเจอพายุ 
และไม่ใช่พายุธรรมดา ทั้งพายุห่าฝน พายุธุลีดิน พายุอัคคี
สามคนต่างก็บุกไปคนละสาย 
และทำลายต้นตอของพายุได้ จึงนำลูกปัดมารุตออกมาได้

แต่เมื่อทั้งสามคนมาถึงเขตน้ำก็ประหลาดใจเพราะ
หมู่บ้านในเขตน้ำและเขตไฟอยู่สลับกันเหมือนตารางหมากรุก
พวกเขาทั้งสามคนต้องเป็นเบี้ยในกระดานหมากรุกนี้ และต้องไปถึงเป้าหมายให้ได้
ใครจะเดินหมากรุกเป็นนอกจาก ฟ้าระดา เพราะนางเป็นถึงลูกสาวเซียนหมากรุก 
ก็มีบางที่นางจะเรียนรู้วิชาของพ่อนางเอง
ฟ้าระดาจึงตัดสินใจเดินหมากกระดานนั้นจนกระทั่งได้ทั้งลูกปัดธารา และลูกปัดเตโช

เหลือเพียงแค่เขตเดียวคือ เขตลับ
แม้แต่สองหนุ่มก็ยังไม่เคนเจอเขตลับนี้เลย
เห็นทีการกลับโลกปัจจุบันของฟ้าระดา คงหมดหวัง
แต่ฟ้าระดา นางเป็นคนฉลาด 
จึงนำเอา ลูกปัดทั้ง4 มารวมกัน 
เกิดเป็นลำแสงเล็กๆ ตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้
ทิวากาญจน์และศรา ชื่นชมในความฉลาดของนาง
เมื่อเดินทางมาจนสิ้นสุดลำแสง กลับไม่ปรากฏบ้านเรือน
เมื่อฟ้าระดาก้าว เพียงหนึ่งก้าวนางก็หลุดไปในเขตลับนั้นแล้ว
สองหนุ่ม จึงก้าวตามไป
ใช่ว่าเขตนี้จะง่าย เพียงแต่ต้องใช้สติปัญญาเท่านั้น 
จึงจะรอด ซึ่งก็ต้องใช้ฝีมือของ ฟ้าระดา จึงได้ลูกปัดเร้นลับมา

เมื่อลูกปัดทั้งห้ามารวมกัน 
โดยไม่มีกล่องแก้วของลูกปัดแต่ละลูก
จึงทำให้ ลูกปัดทั้งห้า แปรสภาพเป็นสิ่งของ
ลูกปัดปฐพี กลายเป็นก้อนกรวดอัคนีร้อยเรียงกันเป็นสร้อย
ลูกปัดธารา กลายเป็นเพชรหยดน้ำสีฟ้าประกาย
ลูกปัดมารุต กลายเป็นก้อนน้ำแข็งอมตะ
ลูกปัดเตโช กลายเป็นกล่องสีทับทิม
ลูกปัดเร้นลับ กลายเป็นกระจกเร้นลับ
เมื่อทั้งสามได้เห็นการแปรสภาพของลูกปัดทั้ง 5 ก็ได้แต่ทึ่งในความมหัศจรรย์

และเมื่อลูกปัดทั้ง5 รวมกันและกลายสภาพ
ทำให้ทั้งเมือง 
แน่นิ่งเหมือนหยุดเวลา
ทั้งสามเห็นว่า เห็นท่าไม่ีดีแล้ว
จึงพากันหนีออกจากเมือง ปัญจัศจรรย์นคร 
เมื่อทั้งสามออกพ้นนอกเมืองแล้ว
ก็พบว่าเมืองทั้งเมืองถูกทำลายด้วยความปั่นป่วน
ที่ลูกปัดทั้ง5 ถูกขโมยออกนอกเมือง
และแล้ว ประตูเมืองก็ได้ปิดลง 
เมืองปัญจัศจรรย์นคร จึงกลายเป็นเมืองลับแล

ทั้งทิวากาญจน์ ศรา และฟ้าระดา 
จึงออกเดินทางร่วมกัน
และได้ผ่านมายังเมืองร้างไร้ผู้คน 
เมืองบรรพตคีรีนคร ที่โดนโรคระบาดฆ่าล้างเมือง
เมืองทั้งเมืองจึงมีแต่คราบเลือด 
กลินเหม็นคละคลุ้ง

เมื่อฟ้าระดา ได้มองเห็นภาพนิมิตว่ายังคนเหลือรอดอยู่ในเมือง
และนางได้นำทางทั้งสองหนุ่มไปยังห้องลับใต้ดิน จึงได้พบห้องลับ
แต่ก็ไม่สามารถไขกุญแจประตูนั้น เข้าไปห้องลับได้
ไม่ว่าจะใช้ขวานจามลง หรือค้อนยักษ์ทุบ ก็ไม่ระคายต่อประตูนั้น

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น