วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ลิขิตเทวะ ตอนที่ 4


ต่างบุญต่างกรรมที่เคยทำร่วมกันมา แม้มิอาจจะเป็นเทพได้ดั่งเดิม 
เพราะพวกเขาได้จุติมายังโลกมนุษย์ เมื่อกายทิพย์แหลกสลายไปแล้ว 
จึงต้องอาศัยร่างกายของสิ่งมีชีวิตในโลก 
ดำรงซึ่งจิตวิญญาณต่อไป 
แม้ความทรงจำจะมิได้กลับมา 
แต่ใช่ว่าความทรงจำนั้นจะหวนคืนมา 
หากไม่ค้นหา ก็ใช่ว่าจะเจอโดยบังเอิญ 

นับแต่ อมรเทวะ ได้ถูกทำลายตบะ
จนได้มาจุติบนโลกมนุษย์ 
ก็ได้มาเกิดเป็นลูกเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมือง อกาลิกธานี 
มีนามว่า อินทรีย์ บิดาคือ อิทธิพงษ์ 
อินทรีย์ กำพร้าแม่แต่กำเนิด 
เพราะ อินทรีย์คลอดก่อนกำหนด สองเดือน 
ซึ่งไม่เป็นปกติของมนุษย์ ทำให้แม่ของเขาตกเลือดมาจนเสียชีวิต 

กระทั่ง อินทรีย์ หรือ อิน เติบโตวัยเข้าประถมได้ 
ก็ได้ก่อเรื่องเกเร ทำความทุกข์ใจมาให้ อิทธิพงษ์ ผู้เป็นพ่ออย่างมาก 
อินทรีย์ก็ยังคงเกเรเหมือนเดิมจนวัยโต อายุ 18 ปีได้ 
ในแต่ละวันของการเป็นลูกเศรษฐี 
อินทรีย์จะใช้เงินเท่าไหร่ก็ได้ เงินมันไม่เคยหมดหรอก 
กระทั่ง อิทธิพงษ์ ได้นำแม่เลี้ยงรุ่นสาว ชื่อ รัตติกาล 
หรือร่างจุติของรัตติกาลเทพ เข้ามาในครอบครัว 

เป็นไปแล้วจริงๆของครอบครัวนี้ 
เมื่ออินทรีย์เกิดอาการเมาบ้าคลั่ง 
จับตัวแม่เลี้ยงรัตติกาลมาขืนใจจนสำเร็จความใคร่ 
เมื่อรุ่งเช้านางรัตติกาลได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงที่แสนจะรับไม่ได้ 
ลูกเลี้ยงกับแม่เลี้ยงมีสัมพันธ์กันเกินแม่ลูก 
นางจึงตัดสินใจ จะออกจากบ้าน 
และได้เข้าไปหา อิทธิพงษ์ เพื่อขอตัวกลับบ้าน โดยอ้างเหตุว่า 
ต้องรีบกลับบ้านตนเองเพราะ พ่อแม่นางได้ฝากให้นางเลี้ยงน้องสาววัย1 ขวบ 

ด้วยความอาลัย อิทธิพงษ์จึงอ้อนขอร่วมรักกับนางรัตติกาลเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากกัน 
ต่างก็ปรนเปรอความใคร่ให้แก่กัน สู่ความเบิกบานหัวใจ 
นางรัตติกาลได้ออกจากบ้านเวลาพลบค่ำเพื่อไม่ให้ลูกเลี้ยงเห็น 
ทำท่าแอบๆหลบๆซ่อนๆ จนกระทั่งหนีออกมาถึงชานเมืองได้ 

แต่ใช่ว่านางรัตติกาลจะหมดเคราะห์กรรมที่นางเคยกระทำไว้ 
ด้านนอกเมือง อกาลิกธานี ชุกชุมไปด้วย โจรป่า โจรภูเขา 
ที่คอยแต่จะปล้นสิ่งของจากนักเดินทางที่ผ่านทางมา 
หากใครขัดขืนมันก็จะฆ่าเสีย 
ถ้าเป็นชายฆ่าไม่ไว้หน้า
หากเป็นหญิงให้จับนางมาปรนเปรอแก่หัวน้ากองโจร

นางรัตติกาล ก็ได้ประสบเหตุจนได้ 
พวกลูกน้องโจรต่างก็จับนางไปให้หัวหน้าโจร 
หัวหน้ากองโจรก็เอานางมาเป็นเมีย 
แม้นางจะขัดขืนแต่แรกก็ตาม 
ด้วยความล่ำสันของหัวหน้ากองโจรนางจึงยินยอมอ่อนตามในที่สุด 
และหัวหน้ากองโจรก็ได้เอานางรัตติกาลเป็นเมีย
คืนวันที่นางหนีออกจากบ้านของสิทธิพงษ์นั่นเอง 

แต่ !!! ใช่ว่ากองโจรนี้จะชาญฉลาดทุกเรื่องก็หาไม่ 
เมื่ออินทรีย์ ลูกเลี้ยงของนางรัตติกาล 
ได้แอบเข้ามาในรังโจรเพื่อพานางรัตติกาลกลับบ้าน 
แต่นางก็มิอาจจะกลับไปได้ เพราะนางยอมเป็นเมียของหัวหน้ากองโจรแล้ว 
อินทรีย์จึวตัดพ้อต่อว่า ว่าตนเป็นคนผิดจึงอยากจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำกับนาง 
แต่นางรัตติกาลก็ปฏิเสธทุกคำอ้อนวอนของอินทรีย์ 
นางเองก็รู้สึกรักและห่วงใยอินทรีย์ จึงบอกให้อินทรีย์รีบหนีไป 
อินทรีย์กลัวความจะแตก จึงได้มีสัมพันธ์กับนางเป็นครั้งที่สองในกระโจมนั้นได้สำเร็จ 
และกำชับนางรัตติกาล ห้ามบอกหัวหน้ากองโจรเด็ดขาด 

อินทรีย์ออกจากกระโจมของนางด้วยความยินดี 
และได้ปลอมตัวเป็น ลูกน้องโจร ปะปนในเหล่ากองโจร 
เพื่อความปลอดภัย และความห่วงใยนางรัตติกาล 
จึงอยากจะดูแลนางอยู่ใกล้ๆ 

พอเวลาพลบค่ำ หัวหน้ากองโจรก็ได้เข้ากระโจมนางรัตติกาล 
เพื่อเสพสุขกับนางทุกวันเว้นวันให้สนองกามของตน 
ซึ่ง อินทรีย์ที่แฝงตัวอยู่ ก็ได้เห็นการกระทำแบบนี้ก็รู้สึกละอายใจ 
แต่ชายใดเล่า จะไม่มีราคะในจิตใจ 
ในคืนที่หัวหน้ากองโจรไม่ได้เข้ามาในกระโจมของนางรัตติกาล 
อินทรีย์จึงได้เข้ามาเสพรักกับนางรัตติกาลเป็นประจำ 
นางรัตติกาลก็รู้อยู่เต็มอกว่าตนลักลอบเป็นชู้กับอินทรีย์ในกระโจมกลางกองโจร 
หากถูกจับได้คงต้องตายเป็นแน่ 

ความตายยังไม่ได้มาเยือนนาง 
นางก็ได้แต่ต้อนรับ หัวหน้ากองโจร อย่างปกติของภรรยาจนไม่แสดงพิรุธได้ 
วันต่อมานางก็แอบลักลอบมีสัมพันธ์กับอินทรีย์ 
หมุนเวียนกันวันเว้นวัน 
โดยหัวหน้ากองโจรมิได้ระแคะระคายในสิ่งใดๆ 

จนกระทั่งเวลาผ่านไป หนึ่งปี 
นางรัตติกาลได้ตั้งท้อง สร้างความดีใจให้กับหัวหน้ากองโจรอย่างมาก 
ถึงกับจัดงานเลี้ยงฉลองต้อนรับการมาของลูกในท้องของนางรัตติกาล 

ใครจะหารู้ว่า 
ความวิตกของนางนั้นกลับมากขึ้นทุกวัน 
ใครคือพ่อของเด็กกันแน่ นางเองก็ไม่อาจจะรู้ได้ 
นี่จึงเป็นความคับแค้น ความอดสูที่นางกระทำมาตลอด หนึ่งปี 


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น