วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

ลิขิตเทวะ ตอนที่ 10



เมื่อมีการตอบแทนบุญคุณ 
สำหรับคนที่ช่วยเหลือในทุกโอกาส 
ก็ใช่ว่าจะมีแต่การตอบแทนบุญคุณด้วยการชดเชยให้ 
แต่อาจจะมีการตอบแทนด้วยหนี้แค้นที่ต้องชำระ


เมืองโกฏิพรนคร เมืองที่เป็นเกาะห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่
ซึ่งใช้เวลาเดินเรือใบครึ่งเดือนคือช้าที่สุด 
แต่เหตุไฉนศพของ เภตรา 
จึงลอยข้ามคืนจากแผ่นดินใหญ่มาถึงโกฏิพรนครได้ 

เภตราที่ฟื้นจากความตายได้ 
และสติยังไม่เป็นปกติ ยังคงเหม่อลอย บ้าๆบอๆ 
หมอยาก็พยายามเค้นเอาความลับจากเภตราลูกของตน 
เภตราก็ยังอาการหนักอีก 
เห็นทีหมอยาต้องรักษาด้วยการพึ่งเวทมนต์คาถา 
หมอยาจึงตัดสินใจนำตัวเภตราไปยังเตาเผาร้อนๆ
เพื่อสวดมนต์อ้อนวอนจักรเทวะ เทพผู้ถูกขังอยู่ในยมโลก 

เมื่อแรงอธิษฐานของหมอยามีมากพอ
ที่จะทำให้จักระเทวะหลุดออกจากพันธนาการในยมโลกได้ 
จักระเทวะ ก็มาปรากฏตัวต่อหน้าหมอยา
และจัดการให้พรตามหมอยาต้องการ 
แต่มีข้อแม้ว่าหมอยาต้องเป็นตัวตายตัวแทนของจักระเทวะ 
หมอยาก็ยินยอมตกลง ให้จักระเทวะรักษาเภตราจนหายเป็นปกติ 
และเภตราสลบไสลไปเพราะความเหนื่อยล้า 

จากนั้นจักระเทวะก็จัดการให้หมอยา
เป็นตัวตายตัวแทนไปอยู่ในคุกแดนยมโลกแทนตน 
จักระเทวะจึงอาศัยร่างของหมอยา 
และเปลี่ยนโฉมเป็น ชายหนุ่มมีนามว่า อัคนี วัยใกล้เคียงกับ เภตรา 
และแปลงความจำของ เภตราใหม่ทั้งหมด ไม่ให้มีหมอยา 

หลังจากที่เภตราฟื้นสติก็กลับมาเป็นดั่งเดิม แต่ความทรงจำหายไป 
อัคนีจึงทำหน้าที่เป็นพี่ชาย คอยดูแลเภตรานับแต่นั้นมา 

ความต้องการของ อัคนี นั้น 
ใช่ว่าเพียงจะครอบครองร่างมนุษย์
แต่ยังต้องการครอบครองโลกทั้งสาม 
การใหญ่เช่นนี้ หากจะชวนเภตรามาร่วมในทันทีคงจะกะทันหันไป 
จึงค่อยๆวางแผน จากการให้เภตรากลับไปเมืองบรรพตคีรีนคร 
เพื่อล้างแค้นให้เภตรา ที่ถูกทรมานจนตาย 

เมื่อมาถึงเมือง บรรพตคีรีนคร 
อัคนี ก็ได้สอนวิชาแก่เภตรา ซึ่งวิชาที่ว่าคือ พิษมาร 
เพื่อให้ เภตราฆ่าคนได้สะดวกไม่เกรงกลัวบาปกรรม 
อัคนี จึงแกล้งให้ธาตุไฟแทรกขณะที่เภตรากำลังฝึกวิชาขั้นสุดท้าย 
ทำให้เภตรา กลายเป็นคนอันตรายขึ้นมาในทันที 
กลางวันเภตราก็เป็นคนปกติ 
หากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเภตราก็จะกลายเป็นปีศาจอสูรพิษมารทันที 

เมื่ออินทรีย์และนางรัตติกาลทราบว่า เภตรายังไม่ตาย 
และยังมีวิชามารด้วย จึงได้ระแวงจะเกิดภัยขึ้น 
จึงนำตัวจันทราและดาราพร้อมกับนางข้าหลวงห้าคน 
ไปยังห้องลับใต้ดินซึ่งต้องใช้กุญแจเพียงดอกเดียวในโลกไขได้ 

เมื่อเที่ยงวัน เภตราก็ปลอมตัวเป็นทหารเข้าเมือง 
และก็เจอตัวอินทรีย์กำลังว่าการเมืองกับขุนนางและนางรัตติกาล 
เภตราจึงขอนั่งฟังอยู่ประตู 
นางรัตติกาลและอินทรีย์หวั่นใจว่า เภตราคงไม่ได้มาดีแน่ 
ส่วนอัคนีเห็นว่า ดวงอาทิตย์หมุนรอบโลกช้าไป 
จึงเร่งให้ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเร็วๆ 

ทันใดนั้น 
กายของเภตราก็เปลี่ยนเป็นปีศาจน่าขยะแขยง 
ต่างจากตอนปกติที่หล่อเหล่า 
อสูรพิษมาร จึงได้ใช้พิษมารทำลายเมืองนี้
ให้เป็นโรคระบาดกันทั้งเมือง 
ซึ่งสะใจอสูรพิษมารยิ่งนัก 
และโรคระบาดนี้ก็ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ 

จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป 7 วัน 
คนทั้งเมืองก็ทยอยล้มตายไปเรื่อยๆ 
แม้แต่สุวรรณราช กับนางรัตติกาลก็ไม่ได้ยกเว้น 

และเมืองทั้งเมืองในครึ่งเดือนต่อมา 
เหลือเพียงแค่ อัคนี กับเภตราสองคน 
โดยไม่รู้ว่า ยังมีอีก 7 ชีวิตที่ยังเหลือรอดในห้องใต้ดิน 

อัคนีและเภตราจึงกลับไปยังเมืองโกฏิพรนคร 
และชีวิตของเภตราก็เปลี่ยน
จากหน้ามือเป็นหลังมือทันทีที่ถึงเมืองโกฏิพรนคร 
เมื่อเภตราสามารถกุมอำนาจเมืองทั้งเมืองไว้ได้ 
ทำให้อัคนีใช้งานหุ่นเชิดอย่างเภตราได้ง่ายขึ้น 


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น